บทความ Web .NET และ Programming

กลุ่มของ .NET
Framework ของไมโครซอฟท์ที่ใช้ชื่อทางการค้าว่า .NET (ดอนเน็ต) มีหลายแบบหลายเวอร์ชั่น รวมแล้วไม่ต่ำกว่าสามสิบแบบ อย่างที่ได้เรียนให้ทราบไปแล้วในบทความ .NET Core คืออะไร แม้จะมีจำนวนมาก แต่ทั้งหมดก็อาจถูกจัดประเภทออกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ได้ 4 กลุ่มคือ • .NET Framework • .NET Core • .NET Native • .NET Standard

.NET Core คืออะไร
.NET Core มีองค์ประกอบหลายส่วน อาทิ ตัว run time ชื่อ CoreCLR ซึ่งเป็นตัวrun time ที่มีทุกอย่างครบสมบูรณ์เช่นเดียวกับตัว run time CLR ใน .NET Framework ของ Windows หน้าที่ของมันคือทำตัวเป็น virtual machine เพื่อ Run และดูแลโปรแกรมที่เขียนไว้เพื่อให้ทำงานใน .NET

มีอะไรใหม่ใน .NET Core 2 และ C# 7 : Generalized Async Return Types
คุณสมบัติ “การทำให้ค่าส่งกลับของ Async กว้างขึ้น” (Generalized Async Return Types ย่อ GART) เป็นคุณสมบัติใหม่ของภาษา C# 7.0 ที่ช่วยให้การส่งค่ากลับจาก Method แบบ Async ไม่จำเป็นต้องมีชนิดข้อมูลเป็น Object อย่างแต่ก่อน เดิมทีการส่งค่ากลับจากmethodแบบAsyncเป็นได้แค่ task, task หรือไม่ก็ void ซึ่งไม่ดีเพราะการเป็น task เป็น Reference Type การใช้งานมันจะเกิดการจองที่หน่วยความจำสำหรับ object หรือที่เรียกว่า boxing ที่เราต้องการหลีกเลี่ยงเพราะจะทำให้เกิดปัญหาคอขวด

มีอะไรใหม่ใน .NET Core 2 และ C# 7 : Pattern Matching ด้วยคำสั่ง Switch
ในภาษา C# เวอร์ชัน 7.0 การตรวจสอบเพื่อการจับคู่รูปแบบ (Pattern Matching: PM) ด้วยคำสั่ง if และ switch ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ยืดหยุ่นกว่าเดิม เขียนโค้ดได้สะดวกขึ้น แต่เดิมการทำ PM ด้วยหลักวัตถุวิธีเราจะสร้างคลาสฐานเป็นแบบ “abstract” จากนั้นจะใช้กรรมวิธีสืบคุณสมบัติเป็นคลาสลูกหลาย ๆ แบบตามต้องการ ส่วนเก็บข้อมูลและโค้ดเพื่อจัดการข้อมูลจะถูกผนึกไว้เป็นหน่วยเดียวกัน ซึ่งเป็นการ “เชื่อมแน่น” (tight coupling) ในกรณีที่เราต้องการการ “เชื่อมหลวม” (loose coupling) เราจะแยก ส่วนเก็บข้อมูลและโค้ดเพื่อจัดการข้อมูลออกจากกัน จากนั้นทำ PM ด้วยคำสั่ง if และ switch ซึ่งหากมีรูปแบบจำนวนวนมาก โค้ดจะยืดยาวเยิ่นเย้อ

มีอะไรใหม่ใน .NET Core 2 และ C# 7 : App ไม่ค้างตอนอ่านไฟล์ใหญ่
.NET Core version ที่ออกใหม่ก็จะใช้งานกับภาษา C# version ใหม่สุดได้ .NET Core version ปัจจุบันคือversion 2.1 สนับสนุนภาษา C# version 7.1 ส่วนversionต่อไปคือ 3.0 จะสนับสนุนภาษา C# version 8.0 ในหัวข้อนี้เราจะมาดูตัวอย่างการเขียนโค้ด การทำงานกับซิปไฟล์ (zip file) ด้วยภาษา C# ใน.NET Core ว่าเหมือนหรือแตกต่างกับการเขียนภาษา C# ใน .NET Framework หรือไม่อย่างไร

มีอะไรใหม่ใน .NET Core 2 และ C# 7 : การทำงานกับซิปไฟล์ (zip file)
.NET Core version ที่ออกใหม่ก็จะใช้งานกับภาษา C# version ใหม่สุดได้ .NET Core version ปัจจุบันคือversion 2.1 สนับสนุนภาษา C# version 7.1 ส่วนversionต่อไปคือ 3.0 จะสนับสนุนภาษา C# version 8.0 ในหัวข้อนี้เราจะมาดูตัวอย่างการเขียนโค้ด การทำงานกับซิปไฟล์ (zip file) ด้วยภาษา C# ใน.NET Core ว่าเหมือนหรือแตกต่างกับการเขียนภาษา C# ใน .NET Framework หรือไม่อย่างไร

มีอะไรใหม่ใน .NET Core 2 และ C# 7 : การใช้ Socket Class เพื่อส่งและรับข้อมูลกับ Server HTTP
สำหรับบทความนี้จะกล่าวถึงคุณสมบัติที่ถูกปรับปรุงใหม่ของภาษาซีชาร์ป 7.0 และ .NET Core 2.0 ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารข้อมูลในเครือข่าย

ข้อดีของภาษา C# เมื่อเทียบกับภาษาอื่น ๆ ตอนที่ 14
ในตอนที่แล้วผู้เขียนพูดถึงเรื่องการเจาะจงอินเตอร์เฟส ซึ่งมีไว้เพื่อแก้ปัญหาในกรณีที่คลาสหนึ่งคลาสสืบคุณสมบัติจากอินเตอร์เฟสสองตัว และอินเตอร์เฟสสองตัวนั้นมีเมธอดชื่อเดียวกันและมีซิกเนเจอร์ตรงกัน จะมีผลให้อินเตอร์เฟสทั้งสองเรียกไปยังเมธอดเดียวกัน ในตอนนี้หัวข้อนี้จะพูดถึงการสร้างสมาชิกของอินเตอร์เฟสสองตัวแบบเจาะจงบ้าง

Backward Compatibility (การเข้ากันได้ย้อนหลัง) ของ API
บทความตอนนี้พูดถึง Backward Compatibility ของ API ซึ่งคนโค้ดควรรู้และระมัดระวังเมื่อใช้งาน Framework ที่ออก version ใหม่กับ source code เก่าหรือ binary ที่ Compile ไว้กับ version เก่า หรือเมื่อเขียน library ใช้งานเอง เช่น ปัญหา Reference Types ที่ไม่เกี่ยวข้อง parameter แบบ Reference Types กับแบบที่ค่าเป็น null ไม่ได้ parameter ทางเลือก (Optional parameters) และ ปัญหาเรื่องความเข้ากันได้ย้อนหลังในระดับ source code และ binary เมื่อมีการทำ method overload กับ Type ที่เป็น Generic

ข้อดีของภาษา C# เมื่อเทียบกับภาษาอื่น ๆ ตอนที่ 13
ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของภาษาซีชาร์ปคือการมีสิ่งที่เรียกว่า อินเตอร์เฟส (Interface) ซึ่งทำหน้าที่เหมือนเป็นสัญญาหรือข้อตกลงว่าคลาสใด ๆ จะมีพฤติกรรมอย่างไร อินเตอร์เฟสมีประโยชน์หลายอย่าง เช่นช่วยให้ออกแบบเพื่อลดความผูกแน่นระหว่างออพเจกต์ และเพิ่มคุณลักษณะการการเชื่อมกันอย่างหลวม ๆ ซึ่งเป็นคุณสมบัติอันพึงประสงค์เพราะจะช่วยให้ออพเจ็กต์มีความยืดหยุ่นมากขึ้น