แนะนำการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python

การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ถือได้ว่าเป็นทักษะอย่างหนึ่ง โดยความหมายของคำว่า “ทักษะ” คือสิ่งที่สามารถเรียนรู้ ฝึกฝน และพัฒนาจนเกิดความชำนาญได้โดยไม่จำเป็นต้องมีพรสวรรค์ใดๆ การเขียนโปรแกรมก็เช่นเดียวกันครับ ต้องฝึกฝนการคิดวิเคราะห์ และแก้ไขปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน มีความเข้าใจหลักภาษาและไวยากรณ์ของภาษาโปรแกรมเพื่อสั่งงานคอมพิวเตอร์ ใช้งานชุดคำสั่งของภาษาโปรแกรมได้อย่างเหมาะสม และฝึกลงมือปฏิบัติจากการทำโครงการเพื่อแก้ปัญหาจริง ผู้เขียนเชื่อเหลือเกินว่าผู้อ่านจะสามารถเขียนโปรแกรมได้อย่างแน่นอน

สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นศึกษาการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ อาจพบปัญหากับการเลือกภาษาโปรแกรมภาษาแรก ซึ่งในปัจจุบันมีภาษาโปรแกรมต่างๆ ที่ได้รับความนิยมเพื่อให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ได้เลือกใช้งานอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น Python, Java, C, C++, C#, JavaScript, Swift, Go และ Structured Query Language (SQL) เป็นต้น อย่างไรก็ตามภาษาโปรแกรมแต่ละภาษาได้ถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น ภาษา Python เป็นภาษาที่ง่ายต่อการเรียนรู้ ภาษา Java ถูกออกแบบมาเพื่อเน้นการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ (Object-Oriented Programming) ภาษา C เหมาะสำหรับการเขียนโปรแกรมที่ต้องติดต่อสื่อสารกับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพ ภาษา JavaScript เหมาะสำหรับการพัฒนาโปรแกรมที่ทำงานอยู่บนเว็บเบราว์เซอร์ และภาษา SQL ได้ถูกออกแบบมาสำหรับการสืบค้นและจัดการข้อมูลในฐานข้อมูล จะเห็นได้ว่าแต่ละภาษามีจุดแข็งที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ไม่มีภาษาโปรแกรมใดเป็นภาษาที่ดีที่สุด

ในบทความนี้ผู้เขียนจะขอแนะนำถึงข้อดีของภาษาโปรแกรม Python ว่าทำไมถึงเหมาะสำหรับผู้ที่สนใจการเขียนโปรแกรมสำหรับผู้เริ่มต้นหรือแม้กระทั่งผู้ที่เคยมีประสบการณ์เขียนโปรแกรมมาก่อน โดยแบ่งเป็นข้อต่างๆ ดังต่อไปนี้

1.ง่ายต่อการเรียนรู้

Python เป็นภาษาโปรแกรมระดับสูง (High-level programming) มีโครงสร้างที่ไม่ซับซ้อน ทำให้ง่ายต่อการเรียนรู้เมื่อเปรียบเทียบกับภาษาโปรแกรมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเด็กวัยประถมหรือผู้ใหญ่วัยทำงานก็สามารถที่จะเรียนรู้ได้ ข้อดีดังกล่าวทำให้เราเน้นความสนใจไปกับการแก้ปัญหาจริงๆ มากขึ้น และช่วยลดเวลาสำหรับการตรวจสอบโครงสร้างและสัญลักษณต่างๆ ของภาษาให้น้อยลง ดังนั้นการเลือกภาษา Python เป็นภาษาแรก จะทำให้ผู้ที่เริ่มต้นศึกษาการเขียนโปรแกรมสามารถใช้เวลาตั้งแต่การเรียนรู้ไปจนถึงการเขียนโปรแกรมเพื่อใช้งานจริงในระยะเวลาที่เร็วขึ้นได้

บริษัทและองค์กรใหญ่ระดับโลก เช่น Google, Facebook, YouTube, Netflix, Dropbox และ NASA เลือกใช้ภาษา Python

2.นำไปใช้งานจริงได้

นอกจาก Python จะเป็นภาษาโปรแกรมที่นำมาใช้เพื่อศึกษาการเขียนโปรแกรมแล้ว แต่เราก็สามารถนำไปใช้งานได้จริงและมีประสิทธิภาพได้ ทำให้บริษัทและองค์กรใหญ่ระดับโลก เช่น Google, Facebook, YouTube, Netflix, Dropbox, Agoda และ NASA เลือกที่จะนำภาษา Python มาใช้ในการพัฒนาเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ โดยมีผู้ใช้งานจริงหลายล้านคนทั่วโลก

ภาษา Python มีไลบรารีครอบคลุมการใช้งานต่างๆ

3.มีไลบรารีครอบคลุมการใช้งานต่างๆ

เนื่องจากภาษาโปรแกรม Python สามารถนำไปพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อตอบสนองความต้องการในงานทางด้านต่างๆ ได้ ทำให้มีนักพัฒนาจำนวนมากต้องการแบ่งปันผลงานร่วมกับนักพัฒนาคนอื่นๆ เพื่อให้ภาษา Python มีความสามารถมากขึ้น โดยมี Python Package Index (PyPI) ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมโมดูลและไลบรารีครอบคลุมการใช้งานทางด้านต่างๆ เช่น วิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ข้อมูล พัฒนาเว็บไซต์ ระบบคอมพิวเตอร์ฝังตัว ระบบเครือข่าย และอื่นๆ อีกมากมาย โดยสามารถเข้าไปค้นหาและดาวน์โหลดโมดูลที่ต้องการได้ที่ https://pypi.org/ หลังจากนั้นก็สามารถนำมาใช้งานในโปรแกรมของเราได้ทันที

4.งานทางด้าน Data Science

ในปัจจุบันงานทางด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science) ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากบนอินเทอร์เน็ตมีข้อมูลใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา และมีปริมาณข้อมูลระดับมหาศาล (Big Data) ดังนั้นหากเรานำข้อมูลเหล่านี้มาทำวิเคราะห์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อเป็นประโยชน์ทางด้านธุรกิจหรือด้านอื่นๆ จะทำให้องค์กรสามารถสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งได้

สำหรับภาษาโปรแกรม Python มีไลบรารีที่ครอบคลุมการทำงานทางด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูลที่มีคุณภาพ เป็นที่นิยม และพร้อมใช้งานอยู่จำนวนมาก โดยสามารถแสดงข้อมูลดังตารางด้านล่างนี้

หน้าที่	รายชื่อโมดูล
การจัดการข้อมูล (Data Manipulation)	Pandas
คณิตศาสตร์และสถิติ (Mathematics and Statistics)	NumPy SciPy และ Statsmodels
การสร้างโมเดลแบบการเรียนรู้ของเครื่องจักร (Machine Learning)	Scikit-Learn TensorFlow Keras และ PyTorch
การประมวลผลภาษาทางธรรมชาติ (Natural Language Processing)	NLTK Gensim และ PyThaiNLP
การแสดงผลข้อมูล (Data Visualization)	Matplotlib Seaborn ggplot และ Bokeh

สำหรับผู้ที่ต้องการจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist) ทักษะการเขียนโปรแกรมถือได้ว่าเป็นหนึ่งในทักษะที่สำคัญ ดังนั้นการเลือกศึกษา Python เพื่อนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ข้อมูล จะช่วยทำให้ลดระยะเวลาในการพัฒนาระบบได้ เพราะสามารถนำไลบรารีต่างๆ มาใช้งานได้ทันที และสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ด้วย เพราะนำไปใช้งานได้ฟรี

5.เขียนโปรแกรมได้หลายกระบวนทัศน์ (Multi-paradigms programming)

กระบวนทัศน์การเขียนโปรแกรม (Programming Paradigm) คือแนวคิดหรือสไตล์ในการเขียนโปรแกรม โดยภาษา Python สนับสนุนการเขียนโปรแกรมได้หลายกระบวนทัศน์ เช่น 1) Imperative programming 2) Event driving programming 3) Object Oriented Programming (OOP) และ 4) Functional programming เป็นต้น ทำให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถเขียนโปรแกรมในรูปแบบที่เหมาะสมกับงานประเภทต่างๆ ได้

6.มีชุมชนนักพัฒนา

ในปัจจุบันภาษา Python ได้รับความนิยมสูงอย่างต่อนื่อง นอกจากนั้นการเขียนโปรแกรมไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในแวดวงของ Computer Science เท่านั้น แต่ผู้ที่ทำงานสาขาอื่นก็อาจมีความต้องการจะนำไปใช้ประโยชน์ในงานทางด้านอื่นๆ ด้วย ทำให้มีชุมชนนักพัฒนาที่ใช้งานภาษา Python เกิดขึ้นบนอินเทอร์เน็ตจำนวนมาก หากต้องการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ก็มีเนื้อหาที่มีคุณภาพในรูปแบบต่างๆ เช่น วิดีโอ หนังสือ บทความ และเอกสารบนอินเทอร์เน็ตให้ค้นคว้าเพิ่มเติมได้ ถ้าหากติดปัญหาใดๆ ก็สามารถค้นหาวิธีการแก้ปัญหาของคนที่เคยพบปัญหามาก่อน หรืออาจจะขอความช่วยเหลือจากสังคมนักพัฒนาที่ชอบแบ่งปันข้อมูลความรู้ระหว่างกันและกันบนอินเทอร์เน็ตได้ เช่น Stack Overflow และ Quora เป็นต้น

โปรแกรมที่เขียนด้วยภาษา Python สามารถทำงานได้หลายระบบปฏิบัติการ

7.ทำงานได้หลายแพลตฟอร์ม

แม้ว่าในช่วงแรกภาษา Python ได้ถูกออกแบบมาให้ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Unix เพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตามได้มีการพัฒนาให้สามารถนำไปใช้งานได้หลายระบบปฏิบัติการอื่นๆ ได้ด้วย เช่น Windows Mac และ Linux ดังนั้นนักพัฒนาสามารถเขียนโปรแกรมเพียงครั้งเดียว แต่สามารถนำไปใช้งานบนคอมพิวเตอร์เครื่องใดก็ได้ ทำให้ช่วยลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการพัฒนา ทดสอบ และบำรุงรักษาซอฟต์แวร์ให้สามารถใช้งานเป็นปกติได้ทุกระบบปฏิบัติการ

นักพัฒนาภาษา Python มีรายได้ดีและเป็นที่ต้องการขององค์กรต่างๆ

8.รายได้ดีและเป็นที่ต้องการขององค์กรต่างๆ

นักพัฒนาโปรแกรมด้วยภาษา Python เป็นที่ต้องการในสายงานทางด้านพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างมาก โดยข้อมูลล่าสุดของเว็บไซต์ indeed.com (ข้อมูลเดือนตุลาคม ปี 2018) ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีอัตราการจ้างงานนักพัฒนาด้วยภาษา Python จำนวนมาก โดยมีรายได้เฉลี่ยสูงถึงประมาณ $120,432 เหรียญ/ปี ดังนั้นผู้ที่เขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python ได้ ก็จะสามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเอง และมีโอกาสในการทำงานกับองค์กรทุกระดับได้

9.สามารถนำไปใช้งานได้ฟรี

นอกจากจะมีข้อดีต่างๆ ตามที่ได้อธิบายในข้างต้นมามากมายแล้ว ภาษา Python ยังเป็นซอฟต์แวร์ประเภทโอเพนซอร์ส (Opensource) หมายความว่าเราสามารถนำซอร์สโค้ด (Source code) มาดัดแปลง แก้ไขได้ทั้งหมด โดยไม่จำเป็นต้องขออนุญาต และที่สำคัญเราสามารถนำไปใช้งานได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเรื่องค่าลิขสิทธิ์ใดๆ

สรุปท้ายบทความ

แม้ว่าในปัจจุบันจะมีภาษาโปรแกรมให้เลือกใช้งานมากมาย รวมทั้งยังมีภาษาโปรแกรมเกิดขึ้นใหม่อยู่ตลอดเวลา แต่ภาษา Python ยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องไปอีกหลายปี สำหรับผู้ที่มีพื้นฐานการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python แล้ว ก็ยังสามารถต่อยอดไปยังสายงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่เป็นกระแสนิยมอยู่ในปัจจุบันได้ เช่น Data Science Data Analytics Big Data และ Internet of Things (IoT) โดยไม่จำเป็นต้องไปศึกษาภาษาโปรแกรมใหม่ใดๆ เลย ดังนั้นผู้เขียนเชื่อเหลือเกินว่า การเลือกศึกษาภาษา Python เป็นภาษาแรกหรือภาษาถัดไป จะให้ความคุ้มค่าในการลงทุนศึกษาอย่างแน่นอน